ตอนแรกที่เห็นงาน UX Thailand 2017 ขึ้นมาบน Newsfeed ผมก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะไปงานนี้ให้ได้ ซึ่งตอนแรกงานนี้ไม่ฟรีหรอกครับ บัตรราคา 1,200 บาท แต่มี Sponsor ใจดีมา Support งานนี้ให้ เลยกลายเป็นฟรี!
โดยคนที่สนใจเข้าร่วมต้องตอบคำถามเพื่อคัดเลือกคนเข้างาน ซึ่งหลังจากเช็คแล้วว่าวันนั้นผมยังไม่ติดอะไร ผมก็ตั้งแจ้งเตือนเวลาที่เปิดให้ลงทะเบียนไว้ เพื่อส่งคำตอบในวันแรกเลยล่ะครับ
เพราะคิดว่าการสมัครเป็นคนแรกๆ อาจจะมีลุ้นมากกว่า เพราะดูให้ความสนใจกับงาน (ไม่รู้เกี่ยวมั้ย ก็ผมอยากไป เลยรีบ เดี๋ยวเต็ม)
ซึ่งสุดท้ายแล้วผมก็ได้ไปงานนี้จริงๆ (ตอนรู้ว่าได้นี่ดีใจมาก)
เอาล่ะ มาเข้างานกันเลยดีกว่า
พอเข้ามาสิ่งแรกที่เห็นคือของกินละลานตามาก
…ตอนแรกก็เกรงใจ ไม่กล้าหยิบ
แต่มีคนคอยประกาศว่าหยิบทานได้เต็มที่
…นี่มันบุฟเฟ่ต์ขนมชัดๆ เรียกว่าไม่ต้องกลัวอดเลยทีเดียว
นอกจากนี้ นี่ยังเป็นงานที่มีการออกแบบป้ายชื่อมาดีมาก
มีการแบ่งกลุ่มคนที่เข้าร่วมงานชัดเจนดี ทำให้เรารู้ว่าแต่ละคนนั้นทำงานในส่วนไหนอยู่โดยดูจากสีของป้าย
สีแดง – Developer
สีเหลือง – Business
สีฟ้า – Designer
ใครอยากคุยกับคนที่ทำงาน Area เดียวกัน ก็มองหาสีเดียวกัน
ใครอยากแชร์มุมมองข้ามสายงานกัน ก็มองหาสีอื่นได้
เพราะเวลาทำงานจริงๆ มันต้องเป็นทีม ซึ่งก็ควรประกอบด้วยทั้ง 3 สีนี้ล่ะครับ
ผมซึ่งเป็น Business Analyst ก็อยู่สีเหลืองไปตามระเบียบ
…
ในงานมีจัดแยกเป็น session ไทยและอังกฤษ สามารถเลือกเข้าฟังได้ตามความสนใจครับ
บาง Session น่าสนใจมากๆ แต่เวลาชนกัน ก็ถึงเวลาที่เราต้องเลือกล่ะนะ
…แต่ใครไม่ทัน ก็สามารถดูย้อนหลังได้ที่ Page : UX Thailand ครับ
หัวข้อที่ Speaker พูดในงาน UX Thailand 2017
โดยผมขอหยิบยกหัวข้อแรกของวัน ซึ่งเป็นหัวข้อที่ผมฟังแล้วชอบที่สุดมาพูดถึงแล้วกันนะครับ
DATA + DESIGN
UX researchers meet Data Scientists
เป็นการรวมร่างของ 2 เรื่องที่กำลังฮอตฮิตในวงการ IT
เพราะ Big Data ก็กำลังมา ส่วน UX ก็เป็นที่คนพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ
แล้วถ้าบอกว่าสองเรื่องนี้มันสามารถไปด้วยกันได้ล่ะ?
การออกแบบที่ดีมันไม่ใช่แค่ความสวยงาม (User Interface – Vision)
เพราะสวยอย่างเดียวแต่ใช้แล้วงง ก็ไม่ตอบโจทย์
เราจึงต้องมี UX (User Experience) ที่ดี ที่คิดมาแล้วว่าลูกค้าคิดอย่างไร เอาใจใส่ลูกค้า (Empathy)
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรล่ะ ว่าลูกค้าคิดอย่างไร?
ตรงนี้เองที่ข้อมูลการใช้งานของลูกค้า (DATA) สามารถเข้ามาตอบโจทย์เพื่อการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของเราได้
ถ้าเรามีการเก็บข้อมูลที่ดี มีปริมาณมากพอ แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ต่อ
นั่นคือข้อได้เปรียบของเราที่จะทำให้ลูกค้ามีประสบการณ์จากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น
เพราะ Data ที่เกิดขึ้น ก็มาจากลูกค้าทั้งนั้น และ 1 ในประโยคเด็ดของ Session นี้คือ
Be data-informed,
not data-driven!
ข้อมูลมีไว้บอกเรา แต่ไม่ใช่เอามันมาขับเคลื่อนทุกสิ่งทุกอย่างที่เราจะทำครับ
…
นอกจาก Session ที่เชิญ Speaker มาพูดแล้ว ยังมี Workshop ด้วย
ผมเห็นว่าเป็นหัวข้อที่ผมเคยเข้าอบรมมาบ้างแล้ว กับจำนวนค่อนข้างจำกัด (ประมาณ 30 คนต่อ Session)
ผมเลยเลือกที่จะฟัง Speaker เป็นหลักครับ
นอกจากนี้ยังมี UX Clinic สำหรับคนที่พบปัญหาต่างๆเกี่ยวกับ UX แล้วอยากขอคำปรึกษา ก็สามารถเอา POST-IT มาแปะคำถามไว้ได้ จากนั้นก็จะมีการเลือกคำถามไปลงช่วงเวลาต่างๆ เพื่อให้เข้าไปปรึกษาแบบตัวต่อตัว หรือ ถ้ามีใครอยากแจม สามารถขอเจ้าของคำถามเพื่อเข้าฟังด้วยได้
ซึ่งอันนี้ผมก็ไม่ได้เข้าครับ…แต่เห็นหลายคำถามแล้วมัน โดนใจ๊… โดนใจ คนที่อยู่ในวงการ Software Development จริงๆ
โดยรวมแล้วเป็นงานที่ได้ความรู้ดีๆกลับไปใช้ทำงานหลายอย่าง
นอกจากนี้ยังมีของแจกในงาน เป็นบอร์ดสำหรับออกแบบ Mobile Application, เสื้อ และถุงผ้าครับ
ก็เป็นอีกงานดีๆ ที่ทำให้ได้เห็น Community ของกลุ่มคนทำงานที่เกี่ยวข้องกับ UX ครับ
…
สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณทีมงานและSponsor ของงาน UX Thailand 2017 ทุกท่านนะครับ ที่จัดงานออกมาได้ดีมากๆ ถ้ามีโอกาสหน้าผมก็ยังอยากเข้าร่วมอีกในครั้งถัดไปนะครับ 🙂