“CG งาม Production อลัง
แต่จังหวะตบมุกในหนังคือเจ๋งสุด”
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีหนังไซอิ๋ว/ซุนหงอคง หลายชุด หลายทีมงาน หลายผู้สร้างมาก จนงงไปหมดแล้วว่าภาคไหนเป็นภาคไหน เพราะแต่ละชุดก็สร้างมาหลายภาคกันด้วย
สำหรับภาคนี้คือหนังชุดเดียวกับที่ภาคแรก กัวฟู่เฉิง เล่นเป็นปีศาจกระทิง (ภาคนี้เกี่ยวกับการบุกสวรรค์) แล้วพอมาภาคสอง เอากัวฟู่เฉิงมาเล่นเป็นหงอคงแทน (ภาคนางมารกระดูกขาว) มาภาค 3 ยังให้กัวฟู่เฉิง รับบท เป็นหงอคงเหมือนเดิม
ภาคนี้เนื้อหาหลักจะเกี่ยวข้องกับเมืองแม่ม่าย ซึ่งจริงๆจะไม่ดูภาค 1 หรือ 2 มาก่อน หรือเคยดูมาแล้วจำไม่ได้ ก็น่าจะดูรู้เรื่องได้ไม่ยาก เพราะเนื้อหาเป็นเหมือนตอนเดียวจบมากกว่า
หนังเรื่องนี้ CG จัดเต็ม จนบางฉากเหมือนเป็นภาพวาดเลย โดยเฉพาะเทพที่อยู่ในแม่น้ำ คือดีไซน์สวย และงานละเอียดมากๆ ในส่วนของชุดนักแสดงและฉากก็มาเต็มมาก คือเห็น Production อลังการขนาดนี้ ก็คิดว่าหนังจะมาแนวเวอร์วังอลังการ แต่เปล่าเลยครับ หนังมันตบมุกตลกคาเฟ่แบบเรี่ยราดมากในช่วงแรก จนน่าทึ่งว่าเดี๋ยวนี้หนังตลกต้องลงทุนกันขนาดนี้เลยเหรอ
ซึ่งช่วงแรกนี่กราฟความชอบของผมพุ่งขึ้นไปพีคมากๆ เพราะหนังมันฮาจริงจัง ขำกันลั่นโรง ก่อนจะมาดรอปลงในช่วงกลางเรื่องที่เริ่มรู้สึกยืดๆนิดหน่อย เพราะเข้าพาร์ทดราม่า ซึ่งก็พอเข้าใจได้ว่าหนังยังมีประเด็นที่จำเป็นต้องเล่าต่อให้จบนั่นเอง
พอถึงช่วงท้ายก็มีสอดแทรกแง่คิดผสมกับฉากแอคชั่นพอประมาณ จนเรียกได้ว่าเป็นหนังที่มีหลายรสชาติในเรื่องเดียวเลย แค่หนังเลือกที่จะเสิร์ฟทีละอย่าง เป็นชุดๆมากกว่าจะสลับไปมาระหว่างแต่ละอารมณ์ (คือพอเข้าโหมดฮา ก็ฮายาว พอดราม่า ก็ดราม่ายาว ไม่ได้เกลี่ยๆ กระจายไปทั่วทั้งเรื่องเท่าไหร่)
นอกจากนี้หนังเรื่องนี้ยังทิ้งคำถามที่น่าสนใจให้กับคนดูอีกมากมาย ในแง่มุมของความเชื่อ ศาสนา หน้าที่ การเสียสละ และบางประเด็นที่น่าจะต้องไปเก็บกันเอง เพราะจะกลายเป็นการสปอยล์
โดยภาพรวมถือว่าเป็นไซอิ๋วอีกภาคที่น่าสนใจ และทำออกมาได้โอเคเลยครับ