บทวิเคราะห์จากหนังเรื่อง The Founder
คำเตือน :
1.สปอยล์ละเอียดยิบ แต่ถ้าไม่คิดอะไรมากก็อ่านโ
2.มุมมองที่ผมเขียน เป็นความคิดเห็นตามเนื้อหาใ
ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกว่าชีวิ
เอาล่ะ เริ่มทีละประเด็นเลยดีกว่า
1.คิดว่า Ray Kroc ควรได้ชื่อว่า Founder ของ Mc Donald หรือไม่?
ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมน
พี่น้องดิ๊กกับแมคเป็นผู้สร
แต่ผู้ก่อตั้งแฟรนไชส์แมคโด
บุกเบิกสาขาใหม่ๆ ติดต่อหาเจ้าของสาขาใหม่ๆ
เรียกได้ว่าถ้าไม่มีเรย์แล้
และไม่มีสาขาทั่วโลกเหมือนท
ดังนั้นถ้าถามว่าเค้าคู่ควร
สำหรับผม ถือว่าคู่ควรนะ
(แต่ผมไม่ได้บอกว่าวิธีการท
2.ผู้คิดค้น vs ผู้ขยายกิจการ
ดิ๊กกับแมค เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมร้านอ
ไม่ต้องรอ ไม่ต้องมีเมนูเยอะๆ
เน้นเร็ว และประหยัดต้นทุนค่าพนักงาน
แต่เค้ามีความสามารถดูแลแค่
ผิดกับเรย์ซึ่งมีวิสัยทัศน์
เรย์ผู้ทะเยอทะยาน และยังไงก็ไปรอดแน่
ขาดใครไป ก็ไม่ทำให้แมคโดนัลด์เกิด
แต่ผู้คิดค้นที่ไม่คิดจะเผย
ดิ๊กกับแมคคือผู้คิดค้นนวัตกรรม
เรย์คือผู้ทำให้นวัตกรรมนั้นเป็นที่รู้จักและมีสาขาทั่วโลก
3.อำนาจของทุน
เมื่อเรย์ขาดทุนในช่วงแรก
เรย์ไม่มีอำนาจต่อรองใดๆเลย
แต่เมื่อเรย์มีทุนหนากว่า
แม้จะทำการบีบดิ๊กกับแมคก็ท
และประโยคที่เจ็บสุดคือ
“ฉันมันระดับชาติ พวกนายมันแค่ local (บ้านๆ)”
คือโคตรเจ็บนะ คิดค้นมาเองกับมือ
แต่โดนขโมยหน้าด้านๆ
อยากได้คืนเหรอ ก็ไปฟ้องเอาสิ
แต่เรย์มีเงินจ่ายค่าทนายเก
สองพี่น้องทำอะไรไม่ได้หรอก
สุดท้ายจึงยอมขายกิจการดีกว
4.การพัฒนาธุรกิจ…ต้องทำต่อ
กรณีมิลค์เชค เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก
ผู้คิดค้นอย่างแมคและดิ๊ก ที่คิดทุกอย่างเพื่อความรวด
หยุดการพัฒนาเพื่อการลดต้นท
ดังนั้นผู้ที่เห็นโอกาสของก
แม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว ในบทสรุปจะบอกว่ากลับมาใช้ม
แต่ก็เห็นได้ว่าเรย์มีหัวก้
ทั้งนี้ในมุมของดิ๊กและแมคน
วัตถุดิบต้องดีเพื่อลูกค้า ไม่ได้คิดหาผลกำไรเป็นหลัก
ดูได้จากการคิดเปอร์เซ็นจาก
แต่เรย์มีหัวธุรกิจเต็มที่ ทุกอย่างคือกำไร
และเมื่อมีโอกาสได้มากกว่าก
ทั้งนี้จุดสำคัญจุดหนึ่งจาก
การขอต่อรองระหว่างเรย์กับส
ที่สองพี่น้องไม่ยอมอ่อนข้อ
ซึ่งทำให้เรย์อยู่ไม่ได้ และขาดทุน
เขาจึงต้องดิ้นรนทุกหนทาง
และหากำไรได้จากช่องทางอื่น
อย่างการหาผลประโยชน์จากค่า
ซึ่งพอเค้ารวยแล้ว เค้าก็ไม่คิดจะกลับไปคุยกับ
เป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ทำให
ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน เราอยู่ได้ เขาก็ต้องอยู่ได้เช่นกัน
จะเห็นว่าแม้จะเป็นหนังอ้าง
แต่หลายประเด็นก็ยังสามารถน