GHOSTBUSTERS: AFTERLIFE
วันที่เข้าฉาย 13 มกราคม 2565 ในโรงภาพยนตร์
ข้อมูลหนัง
ผู้กำกับ: Jason Reitman
เขียนบท: Gil Kenan และ Jason Reitman
ผู้อำนวยการสร้าง: Ivan Reitman
นักแสดง:
- Carrie Coon
- Finn Wolfhard
- Mckenna Grace
- Annie Potts
- Paul Rudd

เรื่องย่อหนัง
Ghostbusters: Afterlife เรื่องราวของแม่เลี้ยงเดี่ยวและลูกทั้งสองที่ต้องเดินทางกลับสู่เมืองเล็กในชนบทที่ที่พวกเขาจะพบความเชื่อมโยงของเรื่องราวที่ Ghostbuster ในอดีตยังทิ้งไว้ และความลับที่คนรุ่นก่อนเก็บงำ
นี่คือตำนานบทใหม่ในจักรวาลดั้งเดิมของ Ghostbusters จากฝีมือผู้กำกับเจสัน ไรท์แมนและผู้อำนวยการสร้างอีวาน ไรท์แมน ใน Ghostbusters: Afterlife ในตอนที่แม่เลี้ยงเดี่ยวและลูกๆ สองคนของเธอได้มาถึงเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง พวกเขาก็เริ่มค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาและเหล่าโกสต์บัสเตอร์กลุ่มดั้งเดิมและตำนานลับๆ ที่คุณตาของพวกเขาทิ้งเอาไว้ให้ ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนบทโดยกิล คีแนนและเจสัน ไรท์แมน

ตัวอย่างหนัง
เกร็ดหนัง
เจสัน ไรท์แมนอายุเพียง 6 ขวบในตอนที่พ่อของเขา ผู้กำกับอีวาน ไรท์แมน พาเขาไปที่กองถ่าย Ghostbusters ในปี 1984 “ผมจำได้ว่าอยู่บนยอดตึกอพาร์ตเมนต์ของดานา” เขากล่าว “ก่อนที่ใครจะรู้ว่าสุนัขสยองขวัญคืออะไรหรือโปรตอน แพ็คคืออะไร ผมก็กำลังดูสตันท์แมนถูกปาดด้วยครีมโกนหนวดขณะที่เจ้าปีศาจมาร์ชเมลโลว์ระเบิดตู้ม ผมกลับไปบ้านพร้อมกับหุ่นมาร์ชเมลโลว์ชิ้นเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนชั้นวางของของผมเรื่อยไปจนถึงตอนผมอยู่ไฮสคูลครับ”

เด็กชายอายุ 6 ขวบคนนั้นเติบโตมาเพื่อทำธุรกิจของครอบครัว โดยเขากลายเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์จากการกำกับเรื่อง Juno และ Up in the Air ด้วยความคิดอ่านที่มีศูนย์กลางอยู่ที่คอเมดีที่เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัว เจสัน ไรท์แมนได้สร้างผลงานภาพยนตร์ที่มีความคิดอ่านที่แตกต่างไปจากคอเมดีที่ทำให้อีวาน ไรท์แมนโด่งดัง ดังนั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมื่อเจสันถูกถามว่าเขาจะสร้างภาพยนตร์เรื่อง Ghostbusters หรือไม่ เขาก็มักจะกล่าวติดตลกเกี่ยวกับความแตกต่างนั้นออกมาอย่างแยบคาย “ผมคิดว่าผมพูดว่า ‘จะไม่มีการกำจัดกันหรอกนะครับ’” เขาหัวเราะ “ผมไม่คิดว่าพ่อจะคาดหวังให้ผมไปหาเขาด้วยเรื่องราวของ Ghostbusters เราเดินไปตามเส้นทางการเล่าเรื่องของตัวเองอย่างชัดเจน ผมมองตัวเองเป็นผู้สร้างภาพยนตร์อินดีน่ะครับ”

อันที่จริง ธุรกิจของครอบครัวไรท์แมนไม่ใช่แค่การกำกับภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการกำจัดผีอีกด้วย และเขาก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นไปจากธุรกิจของครอบครัวได้ ราวๆ 10 ปีที่แล้ว ประสบการณ์ของเจสันในการเป็น “แฟนโกสต์บัสเตอร์คนแรกของโลก” ก็ได้โผล่ขึ้นมามีบทบาทอีกครั้งเมื่อเขารู้สึกประทับใจกับภาพของตัวละครที่เฉพาะเจาะจงมาก “เป็นเด็กหญิงอายุ 12 ขวบที่เจอโปรตอน แพ็คในโรงนาน่ะครับ” เขาอธิบาย “และเช่นเดียวกับไอเดียมากมายที่ผมมี ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมภาพนั้นถึงปรากฏขึ้นมาน่ะครับ”
เจสันกล่าวว่าแนวคิดนี้ยังคงติดอยู่ในใจเขา และเช่นเดียวกับแนวคิดอื่นๆ ที่ควรค่าแก่การสำรวจ ในที่สุดเรื่องราวนี้ก็ต้องการการบอกเล่า “เมื่อฮาโรลด์ รามิสจากไป ทันใดนั้นเอง ผมก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร… เธอเป็นหลานสาวของอีกอน สเปนเลอร์ นั่นคือเรื่องราวที่ผมอยากจะบอก เรื่องราวของเด็กคนหนึ่งที่พบโปรตอนแพ็คและค้นพบว่าเธอเป็นใคร มรดกของเธอคืออะไร และทำไมเธอถึงไม่เหมือนคนอื่น”

มันจะเป็นเรื่องราว Ghostbusters ของเจสัน ไรท์แมน การส่งผ่านคบเพลิงทั้งภายในและภายนอกเรื่อง ด้วยการที่ไรท์แมนคนลูกเป็นผู้กำกับและพ่อของเขาเป็นผู้อำนวยการสร้าง เจสันจะสร้างภาพยนตร์ที่ให้เกียรติแฟรนไชส์ที่เกิดขึ้นก่อนแต่ก็สามารถยืนหยัดได้ตัวเองและมุ่งหน้าสู่อนาคต ภายในภาพยนตร์เรื่องนี้ เจสันจะนำเรื่องราวกลับมาสู่จุดเริ่มต้น ด้วยการร้อยเรียงธีมครอบครัวเข้าไปในโครงสร้างของแฟรนไชส์ “ผมอยากสร้างหนังให้พ่อผมมากพอๆ กับให้ลูกสาวของผม” เขากล่าว “ผมอยากจะเล่าเรื่องราวข้ามรุ่นเกี่ยวกับแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งที่มีลูกสองคน ผู้ซึ่งไม่รู้จักตัวตนของพวกเขาและพบว่าตัวเองค่อนข้างพิเศษ”
ในตอนที่เจสันเข้าหาพ่อของเขาด้วยแนวคิดดังกล่าวไรท์แมนผู้พ่อยอมรับแนวทางดังกล่าวว่าเป็นลูกผสมระหว่างความคิดอ่านของพวกเขาที่สมบูรณ์แบบ “เห็นได้ชัดเจนว่า เจสันมีความรักต่อหนังเรื่องนี้และภาพลักษณ์ของหนังเรื่องนี้ ตามที่ปรากฏอยู่ในทุกๆ คำพูดบนหน้ากระดาษ” อีวานกล่าว “บทหนังเรื่องนี้ทำให้ผมร้องไห้ในครั้งแรกที่อ่าน มันถ่ายทอดจิตวิญญาณและความสนุกสนานของหนังภาคแรก เขามีความเข้าใจที่แท้จริงว่าเขาต้องการจะไปที่ไหน ไอเดียของเขาที่จะนำวิสัยทัศน์ของเขาไปสู่หนังที่มีขนาดอย่าง Ghostbusters เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวในครอบครัวผ่านคอนเซ็ปต์ที่ยิ่งใหญ่กว่าเกี่ยวกับการช่วยเหลือโลกของพวกโกสต์บัสเตอร์ดูเหมือนจะเป็นเรื่องดีครับ”

และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อมที่คบเพลิงสามารถถูกส่งต่อไปในลักษณะนั้นได้ ตามที่พ่อลูกไรท์แมนเล่า “ก่อนหน้าปี 1984 ซูเปอร์ฮีโรจะเป็นกลุ่มชาวอเมริกันที่เข้มแข็ง ผู้จริงจังกับสิ่งที่พวกเขาทำ” อีวานกล่าว “พวกโกสต์บัสเตอร์พวกนี้ค่อนข้างต่อต้านกลุ่มองค์กรต่างๆ และพวกเขาก็มีอารมณ์ขัน มันทำให้พวกเขาเป็นที่เข้าถึงได้มากขึ้นครับ”
“ผมไม่คิดว่าเราทุกคนเชื่อว่าเราสามารถเป็นซูเปอร์แมนได้ แต่ผมคิดว่าเราเชื่อว่าเราสามารถเป็นโกสต์บัสเตอร์ได้” เจสันกล่าวเสริม “การกำจัดผีเป็นโอกาสให้บุคคลภายนอกมีช่วงเวลาที่จะทำตัวเป็นวีรบุรุษได้เสมอน่ะครับ”
“นี่คือวิสัยทัศน์ของเจสันและพ่อของเขาก่อนหน้าเขา” เจสัน บลูเมนเฟลด์ ผู้ซึ่งเคยร่วมงานกับเจสัน ไรท์แมนมาก่อนทั้งในฐานะผู้อำนวยการสร้างและผู้ช่วยผู้กำกับที่หนึ่งตลอด 15 ปีที่ผ่านมากล่าว “มันเป็นจดหมายรักที่เหลือเชื่อที่ส่งถึงพ่อของเขา, Ghostbusters ต้นฉบับและแฟนๆ ครับ”
ภาพจากหนัง


















