“ดราม่ามาเต็ม ทั้งซึมและเศร้า มีทั้งความฉูดฉาดและอึดอัดในเรื่องเดียวกัน”
นี่เป็นหนังเรื่องนึงที่ผิดคาดมากมาย เพราะอ่านจากเรื่องย่อแล้ว มันบอกเล่าอะไรเราน้อยมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่เห็นบนหน้าจอ มันเป็นหนังที่ทำเราอึดอัดตั้งแต่ซีนแรกที่หนังเปิดตัวมา และกระตุ้นให้เราติดตามเรื่องราวของเซเลส (นางเอก) ตั้งแต่ช่วงแรกจนถึงองค์สุดท้าย ซึ่งเราไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อนเลยว่าหนังมันจะอึดอัดและหม่นหมองได้ขนาดนี้
หนังใช้วิธีการเล่าเรื่องคล้ายๆ Steve Jobs ของ Michael Fassbender ซะเยอะ คือถามว่าฉากที่ Perform การแสดง มีมั้ย ก็มีแต่ไม่เยอะ หนังไปเน้นที่การสนทนาระหว่างตัวละครมากกว่า และหลายฉากหนังจงใจเลือกใช้มุมกล้องที่ทำให้เรารู้สึกอึดอัดไปด้วย รวมถึงหลายฉากที่เราอึ้ง และช็อกไปกับการกระทำของตัวละคร นอกจากนี้หนังยังเสียดสีวงการเพลง และสังคมอย่างตรงไปตรงมาได้แสบมากๆ ซึ่งนั่นทำให้เราเทใจกับประเด็นนี้พอสมควร
ยังไงก็ตามจุดที่ผมเกลียดมากๆคือหลายช่วงหนังเล่นแสงสี กระพริบวิบวับ และใช้ความฉูดฉาดของการตัดต่อที่ทำให้ตาลายไปพอสมควร ซึ่งก็พอเข้าใจเจตนาที่เล่าแบบนั้น แต่ผมไม่ชอบฉากแบบนี้ ดูแล้วตาลาย ยิ่งในโรงหนังมืดๆด้วยแล้ว เรียกว่าแทบจะปิดตาหรอกฉากนั้นจบเลย ซึ่งฉากพวกนี้ก็มาไม่กี่ครั้ง ครั้งนึงกินเวลาพอสมควร แต่ไม่ได้นานมากเมื่อเทียบกับหนังทั้งเรื่อง และพอเข้าใจได้ว่าทำไมหนังถึงเล่นแสงสี หรือเร่งภาพให้ลายตาแบบนี้น่ะนะ มันเหมือนเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่จงใจหยิบมาใช้เพื่อตัดกับฉากที่ชวนอึดอัดก่อนหน้านี้
โดยรวม VOX LUX เป็นหนังที่ผมมีการเหวี่ยงคะแนนขึ้นลงพอสมควร เพราะมันมีทั้งจุดที่ชอบมาก และเกลียดมากอยู่ในเรื่องเดียวกัน ผมคิดว่าอาจจะไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบหนังเรื่องนี้ เพราะมันดูแล้วอึดอัด เข้าใจยาก แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็คิดว่าน่าจะมีคนที่ชอบหนังเรื่องนี้นะ (และอาจจะชอบมากกว่าผมด้วย) เพราะตลอดเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง แม้ผมมีความข้องใจในบางการกระทำของตัวละครตลอดเวลา แต่พอมีการเฉลยบางปมออกมา มันทำให้ผมรู้สึกเศร้า น้ำตาตกในไปกับหนังเลยทีเดียว …มันเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างถาโถมออกมา แม้ว่าซีนนั้นจะไม่ได้พยายามเรียกน้ำตาเราแต่อย่างใด แต่เราก็อดที่จะเศร้าไปกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นไม่ได้จริงๆ