“ปูเนื้อเรื่องนานมาก แต่ขมวดตอนจบได้คุ้มค่า
ละเอียดทั้งงานภาพและเนื้อหาที่คมคาย”
เป็นหนังที่เริ่มรีวิวลำบากมาก ไม่รู้จะชมตรงไหนก่อน เลยขอติก่อนแล้วกันนะ ฮาๆๆ นี่เป็นหนังที่ปูเนื้อเรื่องยาวมากๆๆๆๆ คือเรียกว่าเป็นหนังที่เรารู้สึกว่าเดินเรื่องเรื่อยเปื่อยมาก จนเราไม่แน่ใจว่าจุดมุ่งหมายสุดท้ายของหนังมันอยู่ตรงไหนกันแน่ เรียกว่าได้ฟีลลิ่งหนังญี่ปุ่นนิดๆ ที่เล่าเรื่องช้าๆ เอื่อยๆ เรื่อยๆ แต่มีงานภาพที่โคตรสวย และโคตรศิลป์ทำให้เราตราตรึงอยู่ได้พักใหญ่
ก่อนที่หนังจะเริ่มปูพื้นฐานไล่ไป ซึ่งมันไม่ใช่การปูฐานชั้นเดียว แต่เรียกว่าหนังปูฐานไปสู่จุดที่พีคขึ้นๆ จนทำให้เราทึ่ง เพราะหนังมันไม่ไปจบจุดที่เราคิด แต่ไปได้ไกลกว่านั้นมาก และนั่นทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่หนังใช้เวลาโคตรนาน ออกมาโคตรคุ้มค่าจริงๆ คือ บทวางคาแรกเตอร์มาอย่างละเมียดละไมมาก บางอย่างที่เราสงสัยว่าจะเล่าทำไมให้ยืด ใส่ทำไมให้ยาวในช่วงแรก กลับกลายเป็นว่านั่นทำให้หนังได้รับการเติมเต็มจากบทสรุปในท้ายที่สุด
นี่เป็นหนังเรื่องนึงที่ลังเลในคะแนนมากๆ ตอนแรกตั้งใจจะให้ 8.75 หัก 0.25 จากความอืดของมันนี่แหละ เพราะหนังมันเดินเรื่องช้ามาก แต่พอเขียนไปเขียนมา คิดว่าให้ 9 น่าจะเหมาะสมแล้ว เพราะหนังเรื่องนี้น่าจะจัดอยู่ในกลุ่มหนังที่ติดอันดับหนังที่ชอบมากๆของปีนี้ครับ ทั้งภาพสวย บทละเอียด และมีความคมคายมาก
ทั้งนี้หนังเรื่องนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบดูหนังจีนเป็นทุนเดิม หรือสามารถดูหนังที่เดินเรื่องช้าๆได้ เพราะหนังเรื่องนี้ไม่ได้เน้นที่ฉากแอคชั่น แต่ไปเน้นที่แนวคิดและการนำเสนอของหนังมากกว่าครับ
