“เปิดเรื่องมาเหมือนเสียจังหวะการเดินเรื่อง ทำให้รู้สึกเอื่อยนิด ๆ แต่พอเครื่องติดแล้วก็สนุกแบบต้องดูรวดเดียวจนจบ”
Lupin Part 2 เป็นการเดินเรื่องต่อจากเนื้อหาใน Part 1 ของซีรีส์ Lupin ซึ่งก็เดินเรื่องแบบต่อกันสนิทพอดีเลย แต่ในแง่ความรู้สึกผมกลับคิดว่ามันเปิดเรื่องมาไม่สนุก และเอื่อยพอสมควร อาจจะด้วยความที่ผมทิ้งค้างจากซีรีส์เรื่องนี้ไปนาน พอกลับมาต่อมันเหมือนมันต่อไม่ติด มีความงงตัวละครและเรื่องราวเล็กน้อย (ซึ่งถ้าใครดู Part 1 และ Part 2 ต่อเนื่องกันตอนนี้คงไม่เจอปัญหานี้)
ซีรีส์ Lupin Part 2 นี้ นอกจากส่วนที่ผมมีประเด็นเรื่องรู้สึกอารมณ์ไม่ต่อเนื่องแล้ว (แม้ฉากจะต่อเนื่อง) หลังจากกลับมาต่อกันติดในช่วงกลาง ๆ EP 6 (ตอนแรกของ Part 2) ก็เหมือนกลับไปอยู่ในภวังค์ของซีรีส์เรื่องนี้อีกครั้ง ด้วยความที่มีเพียงแค่ 5 ตอนใน Part 2 ทำให้ดูได้รวดเดียวจนจบเลยทีเดียว และใน Part 2 นี้ ผมรู้สึกว่าซีรีส์ทวีความเข้มข้นขึ้นไปอีก ด้วยการ “ล้ำเส้น” ของตัวละครกันไปมา มีหลายต่อหลายฉากที่ผมคิดว่าสถานการณ์ผลักดันให้ตัวละครเจอการกระทำที่ล้ำเส้นจากฝั่งตรงข้าม ทั้งจากฝั่งของพระเอกเอง และฝั่งของตัวร้ายด้วยเช่นกัน
ซีรีส์ Lupin Part 2 เลยเหมือนเป็นภาพสะท้อนความเทา ๆ ดำ ๆ อีกด้านหนึ่งของตัวละครออกมา แม้เราจะมีความเอาใจช่วยต่อความไม่ยุติธรรมที่พระเอกได้รับ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลาย ๆ ปมใน Part 2 นี้ มันก็สะท้อนด้านที่เป็นจุดอ่อน และด้านมืดของพระเอกออกมาพร้อม ๆ กัน ส่วนที่ดีอีกส่วนคือ สิ่งที่ซีรีส์ทิ้งปมไว้ใน Part 1 ได้ถูกนำกลับมาใช้ได้เป็นอย่างดี
โดยภาพรวม Lupin Part 2 ยังเป็นซีรีส์ที่สนุก เข้มข้น เดินเรื่องกระชับ ถ้าดูต่อเนื่องตั้งแต่ Part 1 และ Part 2 น่าจะดีกว่าการดูแยก (ซึ่งตอนนี้ทั้ง 2 Part ก็มีให้ดูต่อเนื่องแล้ว) แม้ว่าซีรีส์ยังอาจจะมีต่อไปได้อีก แต่ผมก็รู้สึกว่าถ้าดูครบทั้ง 2 Part จำนวนสิบตอนนี้ ก็เป็นซีรีส์ที่จบ Season แบบครบถ้วน ไม่ค้างคาอะไรอีกครับ