“เอาใจแฟนคลับดราก้อนบอลสุดๆ เด็ดสุดคือมุกตลก ปิดท้ายด้วยฉากแอคชั่นเต็มอิ่ม”
ดราก้อนบอลก็ยังเป็นดราก้อนบอลนั่นแหละนะ เนื้อเรื่องเข้าใจง่าย บู๊ล้างผลาญ จนมีคนเคยไปค่อนแคะว่าพลอตธรรมดาไป แต่เอาเข้าจริงมันก็ยังมีความสนุกในแบบของมันอยู่ หนังเรื่องนี้ตอบโจทย์แฟนคลับดราก้อนบอลมากๆ ทั้งมีการเติมเต็มส่วนของอดีตของตัวละครชาวไซย่า และเดินเรื่องเข้าใจได้ง่ายเหมือนเดิม
ในภาคนี้ Timeline หลักจะเดินเรื่องต่อจาก Dragon Ball Super แต่เอาเข้าจริงผมเชื่อว่าถึงไม่ได้ดูมาก็ตามทันได้ไม่ยากนัก แค่คนที่ดูมาอาจจะเข้าใจสถานการณ์ได้ชัดเจนกว่าว่าทำไมบางตัวละครถึงอยู่ในภาคนี้ และตัวละครพูดถึงใคร แต่ยังไงก็ตามเนื้อหาหลักของภาคจะโฟกัสไปที่ตัวโบรลี่ด้วย ทำให้ภาค Super เป็นแค่องค์ประกอบเล็กๆที่ถึงไม่ดูมาก็ข้ามได้
จุดที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ของมุกตลก ที่ร้ายกาจ ขอไม่เล่าว่าร้ายกาจยังไง แต่เป็นฉากที่คนดูหัวเราะกันค่อนโรง แถมมีคนปรบมือให้กับมุกนี้ด้วย ..เป็นมุกที่ขยี้ได้ร้ายกาจที่สุด เสียงพากย์ของภาคนี้ถือว่าดีเลยล่ะครับ จะติดนิดหน่อยก็ตรงที่บางช่วงเสียงเพลงก็ดังแข่ง แต่รวมๆก็ไม่ได้รู้สึกขัดอะไรมาก นอกจากนี้ยังชอบการตีความใหม่ของตัวละครโบรลี่ ทำให้ภาคนี้เป็นภาคที่น่าสนใจขึ้นเป็นกอง
ส่วนจุดที่ขอติคืองานภาพ หนังมีทั้งช่วงที่ภาพสวยมาก และช่วงที่ลายเส้นแปลกๆ แม้ฉากแอคชั่นจะมันส์หยด แต่บางช่วงก็แอบรู้สึกว่าหนังให้ตัวละครหลบมุมกล้องมากไปนิด ทั้งนี้ทั้งนั้นจุดที่อยากจะชมและติเรื่องภาพ เลยไม่รู้จะพูดยังไงดี เอาเป็นว่ามันไม่สม่ำเสมอ แม้ว่าฉากที่ภาพสวยจะมีมากกว่าก็ตาม และภาคนี้มีการผสาน 2D และ 3D ในหลายฉาก ซึ่งบางฉากก็สวยมาก บางฉากก็แปลกตานิดหน่อย
โดยรวมแล้วผมชอบภาคนี้มากกว่าภาคเทพทำลายล้าง และโกลเด้นฟรีซเซอร์ครับ สำหรับแฟนคลับของดราก้อนบอล นี่เป็นภาคที่ดีกว่าเดิม เป็นเดอะมูฟวี่ที่สนุกที่สุดในรอบหลายปีเลยครับ
ปล.หนังไม่มี End Credit นะครับ ลุกได้เลย ตอนดูรอบสื่อก็มีหลายคนรอ (ผมด้วย เพราะตอนแรกเข้าใจว่าจะมีครับ)
