เรียกได้ว่ามีคอนเทนท์หลากหลายรสชาติ สำหรับ Netflix เพราะงานนี้ได้ออกตัวจัดลิสต์ หนัง ซีรีส์ และสารคดีเกี่ยวกับวงการแพทย์หรือคอนเทนต์สุขภาพ ที่เต็มไปด้วยความบันเทิง และความรู้เกี่ยวกับสุขภาพอนามัย การดูแลตัวเองทั้งกายและใจมาแนะนำให้ดูถึง 4 เรื่อง แต่ละเรื่องที่ทาง Netflix คัดมาให้ดูกันนั้นจะทำให้การอยู่บ้านของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
เริ่มกันด้วยซีรีส์แนวเมดิคัล-ดราม่าจากแดนกิมจิ Hospital Playlists (เพลย์ลิสต์ชุดกราวน์) ซีซัน 1 ที่เพิ่งลงจอไปเมื่อเดือนที่แล้ว และได้กระแสตอบรับที่ดีมากตั้งแต่อีพี 1 การันตีความสนุกโดย 3 นักแสดงหนุ่มชื่อดังอย่างโชจองซอก ชองกยองโฮ และยูยอนซอก ภายใต้การกำกับของชินวอนโฮ ผู้กำกับที่เคยประสบความสำเร็จจากเรื่อง Reply 1989
ซีรีส์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของแพทย์ 5 คน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เข้าเรียนที่คณะแพทย์ศาสตร์เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ประกอบด้วย อิกจุน (รับบทโดย โชจองซอก), ซอกฮยอง (รับบทโดย คิมแดมยอง), ซงฮวา (รับบทโดย ชอนมีโด), จุนวาน (รับบทโดย ชองกยองโฮ) และจองวอน (รับบทโดย ยูยอนซอก) พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในโรงพยาบาล ซึ่งเราจะได้เห็นเรื่องราวความสัมพันธ์และมิตรภาพของพวกเขา รวมถึงการทำงานของแพทย์ในแต่ละวัน และชีวิตของผู้ป่วยในโรงพยาบาลอีกด้วย เรียกได้ว่าครบทุกรสจริง ๆ
มาต่อกันด้วยซีรีส์น้ำดีจากฝั่งตะวันตกอย่าง Sex Education (เพศศึกษา..หลักสูตรเร่งรัก) ที่กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ไปทั่วโลกหลังจากซีซัน 1 ออกอากาศ และซีซัน 2 ที่เพิ่งออกอากาศไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็ปังไม่แพ้ซีซีนแรก
ซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวทางเพศ รวมถึงความรู้สึกนึกคิดของตัวละครวัยรุ่นได้ลึกซึ้งและตรงไปตรงมา ซีซัน 1 ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับโอทิส (รับบทโดย เอซา บัตเตอร์ฟีลด์) เด็กหนุ่มวัยรุ่นธรรมดา ที่มีชีวิตแสนจะไม่ธรรมดา เพราะต้องอาศัยอยู่กับ จีน (รับบทโดย จิลเลียน แอนเดอร์สัน)คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีอาชีพเป็น ‘นักบำบัดทางเพศ’ โอทิสและเพื่อนของเขา เมฟ ร่วมก่อตั้งคลินิคที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวด้านเรื่องเพศในโรงเรียน
เรื่องราวดำเนินต่อในซีซัน 2 เมื่อโอทิสต้องค้นหาความต้องการทางเพศของตนเองเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับแฟนสาวอย่าง โอลา (รับบทโดย แพตทริเซีย อัลลิสัน) พร้อมต้องประคองความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับเพื่อนอย่าง เมฟ นอกจากนี้การแพร่ระบาดของการติดเชื้อคลาไมเดียในโรงเรียนกำลังตอกย้ำความสำคัญของการให้ความรู้เรื่องเพศ และนักเรียนใหม่ที่กำลังมาถึงก็จะมาท้าทายสถานการณ์ที่เป็นอยู่
สำหรับเรื่อง Sex Education นี้ ผมเคยเขียนรีวิวไว้ตามลิงค์ด้านล่างนี้นะครับ
พักจากซีรีส์ มาพูดถึงสารคดีสั้นอย่างเรื่อง Period. End of Sentence. (ประจำเดือน ปฏิวัติพลังหญิง) ของผู้กำกับหญิงเชื้อสายอิหร่าน-อเมริกัน ไรกา ซาทอมซี ที่ได้รับรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์สารคดีสั้นยอดเยี่ยม กับการถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับประจำเดือน ซึ่งอาจเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้หญิงทั่วไป แต่กลับเป็นเรื่องที่น่าอับอายสำหรับคนกลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่งที่เมืองฮาปูร์ ประเทศอินเดีย ความเชื่อผิด ๆ นี้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้หญิงรวมถึงเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน และยังทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเพศอีกด้วย
ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้เป็นการร่วมมือกับกลุ่ม The Pad Project ที่ต้องการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้หญิงทั่วโลก โดยเฉพาะในเรื่องของสุขอนามัย พวกเขาเริ่มจากการนำเครื่องผลิตผ้าอนามัยมาติดตั้งในหมู่บ้าน โดยใช้เงินจากการระดมทุนของกลุ่มนักเรียนในย่านนอร์ธ ฮอลลีวูด นครลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังซื้อเครื่องจักรขนาดเล็กมาสอนให้ผู้หญิงในชุมชนผลิตอนามัยไว้ใช้เอง โดยมีค่าจ้างและจัดตารางการทำงานให้ ทำให้เกิดการจ้างงานในกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น และยังมีการสอนให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประจำเดือน การใช้ผ้าอนามัย และสุขลักษณะที่ถูกต้องให้แก่ผู้หญิงในชุมชน
สุดท้าย เราขอแนะนำภาพยนตร์ฟีลกู้ดเรื่อง To The Bone (ทู เดอะ โบน) ที่บอกเล่าเรื่องราวของ แอลเลน (รับบทโดย ลิลลี่ คอลลินส์) เด็กสาววัย 20 ที่ทนทุกข์ทรมานกับโรค anorexia (โรคกลัวอ้วน) ครอบครัวของเธอจึงส่งตัวไปรักษากับคุณหมอวิลเลี่ยม เบ็คเฮม (รับบทโดย คีอานู รีฟส์) ซึ่งเธอได้พบกับเพื่อน ๆ อีกหลายคนที่เผชิญปัญหาเดียวกัน รวมถึงลุค (รับบทโดย อเล็กซ์ ชาร์ป) ที่มีความรู้สึกดี ๆ ให้เธอ นอกจากความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวและมิตรภาพระหว่างเพื่อน รวมถึงเรื่องราวความโรแมนติกระหว่านแอลเลนและลุคแล้ว
ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เราได้ความรู้และเข้าใจผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้มากขึ้น รวมถึงความสำคัญของคนรอบข้าง โดยเฉพาะครอบครัวที่จะเป็นกำลังใจให้คนที่เป็นโรคนี้สู้ต่อไป สำหรับใครที่เป็นแฟนของลิลลี่ คอลลินส์แล้ว ห้ามพลาดกับผลงานการแสดงมาสเตอร์พีชที่เธอถ่ายทอด