“เป็นหนังที่บทพูดน้อย แต่วิธีการนำเสนอน่าทึ่งมาก”
ขึ้นชื่อว่าหนังของคริสโตเฟอร์ โนแลน แม้ผมจะตามเก็บไม่ครบทุกเรื่อง แต่หลังจากไตรภาค The Dark Knight มา ผมก็ไม่พลาดเลยสักเรื่องนะ และโดยมากมักจะพยายามไปดูในโรง
แต่กับเรื่องนี้ ด้วยความที่มันเป็นหนังสงคราม และเราเชื่อว่าโนแลนจะต้องทำออกมาได้ดีมากๆ ผมเลยไม่กล้าไปดูในโรงครับ ฮาๆ เพราะผมเข็ดจาก Saving Private Ryan (กำกับโดย สปีลเบิร์ก) ที่ทำออกมาได้ดีมากๆเหมือนกัน แต่ผมก็อึดอัดและทรมานกับฉากสงครามในเรื่องนั้นมาก จะเรียกว่าผมเป็นคนไม่ชอบหนังสงครามก็ได้นะ คือ ใช้ความคิด วางกลยุทธยังพอไหว แต่พวกเลือดท่วมจอแบบเรียลๆ ก็ไม่โอเค
ซึ่งเรื่องนี้ก็มีความกดดัน และชวนให้ลุ้นไปกับตัวละครเยอะมาก แต่ไม่ถึงกับเลือดสาด ในแบบ Saving Private Ryan เรียกได้ว่ามีความดุดัน โหดร้ายพอประมาณ ให้เรายังรู้สึกเอาใจช่วยไปกับตัวละคร และไม่หดหู่จนเกินไป
ผมไม่แน่ใจว่าทุกคนจะชอบหนังเรื่องนี้ เพราะมันเป็นการนำเสนอที่แหวกแนวกว่าหนังสงครามทั่วไป เพราะบทพูดน้อยมากๆ (แต่มีเสียงอื่นๆนะ) แต่งานด้านภาพนี่สมจริงสมจังสุดๆ คือถ้าดูในโรงน่าจะเต็มอิ่มกว่านี้มาก (จะเสียดายที่ไม่ได้ดูโรงก็มุมนี้แหละ) ทำให้ภาพรวมหนังดูจริงจังมาก จะว่าบันเทิงก็บันเทิงในแง่ความลุ้น แต่ด้วยความกดดัน จะบอกว่าเป็นหนังที่ดูแล้วไม่เครียดเลยก็คงไม่ได้
หนังแบ่งออกเป็นพาร์ทต่างๆ ซึ่งนำเสนอออกมาได้เจ๋งมากๆ ยังรู้สึกคิดถูกที่พยายามทำตัวให้รู้เกี่ยวกับหนังน้อยที่สุด …เพราะเทคนิคการนำเสนอของโนแลน ไม่ค่อยจะซ้ำกับใคร และไม่ซ้ำกับงานเก่าตัวเองเท่าไหร่ด้วย
โดยภาพรวมผมชอบเรื่องนี้นะครับ แต่ไม่ได้ถึงกับชอบมาก เพราะมันเป็นหนังประเภทที่ผมไม่ชอบนั่นเอง ถ้าใครชอบหนังสงคราม เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจครับ
