ฉลาดเกมส์โกง : วงล้อแห่งการโกง เมื่อเริ่มหมุนแล้ว ก็ยากที่จะสิ้นสุด

0
685
Bad Genius ฉลาดเกมส์โกง
Bad Genius ฉลาดเกมส์โกง

คำเตือน : สปอยล์เนื้อหาส่วนสำคัญของหนังหลายๆส่วน

1.ไหนจะข้อสอบหลุด ไหนจะแป๊ะเจี๊ย เป็นครูก็โกงได้ ขนาดผอ.ยังโกงเลย

การโกงขั้นต้นสุดของวงการศึกษาคงหนีไม่พ้นแป๊ะเจี๊ยะ
คือยังไม่ทันจะเข้าไปอบรมบ่มนิสัยให้เป็นคนดีของชาติ

ด่านแรกก็เป็นเรื่องโกงๆซะแล้ว

แล้วสถานศึกษาจะอบรมบ่มนิสัยให้โตไปไม่โกง?
เป็นคนดี มีความซื่อสัตย์?

ครูผู้สอนก็มีคลาสพิเศษ แจกข้อสอบให้เด็กที่จ่าย

เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่มีในสังคมไทย แถมยังรู้กันแบบเปิดเผยซะด้วย

ทั้งนี้ถ้าจะบอกว่าลินเริ่มต้นการโกงตามผู้ใหญ่ก็คงไม่ผิด

“บอกว่าเรียนฟรี แต่มีแป๊ะเจี๊ยะ”

พอลินเอาบ้าง เก็บค่าลอกข้อสอบ
เพื่อให้ทุกคนได้เกรดดีๆ (เหมือนแป๊ะเจี๊ยะที่ทำได้เข้าโรงเรียนดีๆ)
กลับกลายเป็นเรื่องโกงในสายตาผู้ใหญ่ซะงั้น
(ก็โกงจริงแหละ แต่มันเทียบเคียงกันได้นะกับการโกงที่ผู้ใหญ่รับได้)

แต่แป๊ะเจี๊ยะ ผู้ใหญ่เรียกค่าบำรุง
ขนาดพ่อของลินซึ่งเป็นครู และเป็นผู้จ่าย
ยังยอมรับกับสิ่งนี้โดยบอกให้ลินเลิกต่อปากต่อคำเลย

ราวกับว่าแป๊ะเจี๊ยเป็นสิ่งถูกต้อง
แต่ค่าลอกข้อสอบที่ลินเก็บ เป็นสิ่งที่ผิด

2.ต้นทุนชีวิต

“ความฉลาดแลกเงิน เงินแลกความฉลาด”

ต้นทุนของลินคือสมองที่ฉลาดเป็นกรด
ต้นทุนของพัฒน์คือเงินของพ่อแม่

จะเห็นว่าเป้าหมายของลิน พัฒน์ และเกรซ
ในช่วงโกง STIC นั้นคล้ายกัน

แบงค์และเกรซ โกงเพื่อเข้ามหาลัยดีๆ โดยใช้เงินซื้อความฉลาดแบบปลอมๆ (คะแนน)
ลิน โกงเพื่อเข้ามหาลัยดีๆ โดยใช้ความรู้แลกเงินค่าเทอ

ซึ่งความฉลาดปลอมๆนี้เองที่มีผลต่อการเข้ามหาลัย

ซึ่งหากเป็นคนที่โง่แล้วยังจน ไม่มีเงินจ่ายให้ลิน
ก็คงต้องใช้ความสามารถตัวเองในการสอบ

ซึ่งคงยากที่จะไปแข่งกับโพยเทพของลินได้

ในขณะที่แบงค์ซึ่งไม่ได้คิดจะโกงมีโอกาสเดียวคือสอบชิงทุน

3.เราไม่โกง คนอื่นก็โกง

แบงค์ผู้ซื่อสัตย์ ขยัน ช่วยแม่ที่สุขภาพไม่ค่อยดี
แบงค์ใช้วิธีที่ถูกต้องมาตลอด
แบงค์ไม่เคยโกงใคร

แต่แบงค์ถูกโกง โกงโอกาสที่จะสอบชิงทุนไป
ถามว่ามีใครเห็นใจแบงค์มั้ย?

ในเรื่องนี้ซึ่งเป็นสังคมคนโกง ไม่มีใครเห็นใจเลย
พัฒน์เป็นต้นเรื่องด้วยซ้ำ
เกรซก็เฉยๆ
บรรจงนี่ยิ่งแล้วใหญ่ สมน้ำหน้าเค้าด้วยซ้ำ
เพราะไปฟ้องเรื่องที่ตัวเองเคยโกง

เมื่อมีขบวนการโกงเกิดขึ้น
คนอื่นก็ทยอยทำตามเพราะไม่อยากเสียเปรียบ

สุดท้ายคนซื่อก็อยู่ยาก
เพราะไม่เพียงแต่โดนโกง
พอจะปราบโกงก็โดนคนโกงรุมกระหน่ำอีก

“ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป”

เมื่อเห็นดังนี้แล้วคนที่ซื่อสัตย์ที่สุดอย่างแบงค์
จึงกลับกลายเป็นคนทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์

ค่ากระทืบ คิดล้านนึง
บอกในช่วงเวลาที่บีบคั้นที่สุด
เพราะแผนได้ดำเนินไปแล้ว
ไม่มีทางหยุดได้

และเมื่อถูกตัดสิทธิ์ทุนเมืองนอก
เสียประวัติ ถูกไล่ออก

ก็เลือกที่จะดำดิ่งลงไปสู่ความมืดมนยิ่งกว่าเดิม
คนดีที่ท้อถอยต่อความดี
และเลือกที่จะทำชั่วแล้ว

อาจจะกลับกลายเป็นคนชั่วได้ถึงขีดสุด
เพราะไม่มีอะไรให้เสียอีกต่อไปแล้ว

4.เราเป็นคนเลือกมหาลัย ไม่ใช่มหาลัยเป็นคนเลือกเรา!!!

ประโยคนี้ฟังแล้วโคตรเท่นะ
เลยอดไม่ได้ที่จะยกมาไว้ในรีวิว

อยากบอกพัฒน์ว่า
“ประเด็นคือมึงเลือกได้เว้ย แต่เค้าจะเลือกมึงมั้ย มันอีกเรื่อง”

สิ่งที่พัฒน์ทำก็แค่คำพูดสวยหรู พูดเหมือนถูกเอาเปรียบ
ทั้งที่จริงๆแล้วการสอบเข้าวัดกันที่ความสามารถ

แต่ต้องหลับตาข้างนึงเรื่องแป๊ะเจี๊ยะในข้อแรกนะ ฮ่าๆ

ระเบียบของมหาลัยมันชัด
แต่ตัวเองทำตามกติกาแล้วสู้ไม่ได้เอง

เลยใช้ต้นทุนที่มีอย่างเงิน ในการแลกเปลี่ยนกับคะแนน

5.WIN-WIN ไม่มีใครเสียหาย ?

“ลินได้เงิน เพื่อนก็เต็มใจจ่าย ไม่มีใครเสียหาย”

ที่พูดแบบนี้ก็เพราะแวดวงของลินอยู่แต่กับคนโกง
จึงมองไม่เห็นว่าคนที่ไม่ได้ลอกโพยของลิน คือผู้เสียผลประโยชน์

พูดไปแล้ว…ก็อดนึกถึงกรณีข้อสอบเอนท์รั่วไม่ได้

การสอบเข้ามหาลัยในยุคนึง (ยุคผมแหละ)
เป็นที่ฮือฮาเพราะข้อสอบเอนท์รั่วครับ

คนเสียหายคือคนในรุ่นนั้นทั้งหมด แน่นอนว่าคนได้คือพวกโกงๆ ได้คะแนนดีๆไป

แต่คนเสียคือ บางคนชื่อหลุดไปอยู่คณะอันดับสอง สาม หรือเอนท์ไม่ติดไปเลย

บางคนซิ่วไปเรียนที่ใหม่ ซึ่งถ้าซิ่วได้ ก็ไปเบียดบังที่ของรุ่นน้อง รุ่นถัดๆไปอีก

แต่เพราะมันไม่ใช่คนที่คนโกงแบบลินกำลังคุยด้วย
มันเลยดูเหมือนไม่มีใครเสียหาย

6.ทุจริตสอบ รับโทษไม่เท่ากัน

ลินทำผิดในโรงเรียน ทำข้อสอบให้เพื่อนชัดๆ โดนตัดสิทธิ์ทุน

แบงค์ทำผิดนอกโรงเรียน โดยอ้างว่าแอบอ่านศัพท์ในห้องน้ำ โดนไล่ออก

ผมไม่รู้ว่าทีมงานของหนังจงใจซ่อนไว้รึเปล่า แต่มันโคตรเรียล
และตอกย้ำความเหลวแหลกของชื่อเสียงจอมปลอมของโรงเรียนในเรื่องมากๆ

ความต่างกันของลินและแบงค์คือ

แบงค์ทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียงได้ และป้ายถูกปลด ณ ตอนที่เรื่องแบงค์แดงขึ้นมา
แม้ว่าลินจะโกงไปก่อนหน้านั้น แต่ป้ายก็ยังแขวนอยู่

เพราะลินเป็นเด็กเก่ง ทำให้โรงเรียนมีชื่อเสียงได
และคนอื่นไม่รู้ว่าลินโกง รู้กันภายในโรงเรียนเท่านั้

ในขณะที่แบงค์ เป็นเด็กเก่งแต่คนนอกรู้ว่าโกงเลยไม่เก็บไว้

ซึ่งถ้าโรงเรียนเสียภาพลักษณ์ไป
ใครจะอยากส่งลูกเข้ามาเรียนโรงเรียน
ที่สอนนักเรียนโตไปเป็นคนโกงๆแบบนี้

ถ้าไม่มีคนอยากมาเรียน โรงเรียนก็ไม่ได้แป๊ะเจี๊ยะ

ภาพลักษณ์ที่ดีคือมีเด็กเก่ง ได้ทุน จะนำมาซึ่งแป๊ะเจี๊ยะ
เพราะผู้ปกครองอยากให้ลูกหลานได้ดิบได้ดีทั้งนั้น

แบบที่พ่อลินบอกไว้ถึงเหตุผลที่ยอมกัดฟันสู้ เลือกโรงเรียนนี้

และแบบเดียวกับที่พ่อแม่พัฒน์หาสังคมคนเรียนดีให้ลูก
ยอมจ่ายแป๊ะเจี๊ยะแพงๆเข้าโรงเรียนนี้นั่นเอง

7.”แกก็มีส่วนจะต้องรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นรึเปล่าวะ”

ลินโทษแบงค์ว่าทำให้ตัวเองถูกตัดสิทธิ์ทุนทั้งๆที่ลินโกงเอง
ในขณะที่แบงค์โทษลินเพราะลินพูดชื่อแบงค์ ทำให้แบงค์ถูกกระทืบ อดสอบทุน และท้ายที่สุดถึงขั้นถูกไล่ออก

ฉากบนสะพานลอยที่คุยกันก่อนโกง STIC

แบงค์ค่อนข้างชัดเจนว่ายังไงก็หลุดทุนแล้ว ถ้าไม่โกงก็เหมือนเสียทุนไปฟรีๆ โดยไม่ได้อะไรกลับมาเลย
ส่วนลิน รู้สึกไม่ดีกับพัฒน์และเกรซแล้ว และอยากจะหยุดแผนการโกงครั้งนี้

แต่มันสายไปเสียแล้ว พอแผนการเริ่ม กลับกลายเป็นแบงค์ที่โดนจับได้

ทำให้เรื่องของแบงค์มันมืดมนยิ่งกว่าเดิมซะอีก
คู่นี้ราวกลับว่าสลับดำเป็นขาวกันทั้งคู่เลยทีเดียว

Leave a Reply