คุยจากข่าว : Apple ลดกำลังการผลิต iPhone X ลง 40% ทำหุ้นบ.รับผลิตในจีนร่วงกระจาย

0
174
iPhoneX
ขอบคุณภาพจาก https://unsplash.com/@bhaguz

จากข่าว : APPLE ลดระดับการผลิต IPHONE X ลง 40% เหตุยอดขายต่ำกว่าเป้า ส่งผลหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในประเทศจีนร่วงกราว

การเป็นผู้รับจ้างผลิตให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่นั้น แม้จะทำให้ธุรกิจใหญ่โต ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำไปตามๆกัน ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ในกรณีที่สินค้าของลูกค้าเราขายไม่ดี เราก็จะต้องผลิตของจำนวนน้อยลงไปด้วยเช่นกัน

ในขณะที่ Apple จ้างบริษัทในจีนผลิต นอกจากจะได้ต้นทุนที่ต่ำกว่าแล้ว ยังไม่ต้องมารับภาระค่าใช้จ่ายพนักงาน และบำรุงรักษาโรงงานในกรณีที่จะปรับลดกำลังการผลิตลงด้วย คอยกินแต่ส่วนต่างจากต้นทุนจากโรงงาน และราคาขายก็พอ เพราะ Apple มีหน้าที่คือคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ และทำการตลาด

ซึ่งรอบนี้ก็น่าสนใจที่สินค้าเพิ่งวางขายได้ไม่นาน แต่มีการปรับลดกำลังการผลิตซะแล้ว

ปีนี้อาจจะไม่ใช่ปีที่ดีสำหรับ Apple ก็เป็นได้ เพราะเจอมรสุมหลายเรื่อง เช่น

เครื่อง Restart เอง ทุก1นาที

FACE ID ใช้หน้าคนอื่น Scan ผ่าน

การปรับลดความเร็ว iPhone ให้รุ่นเก่าทำงานช้าลง กรณีแบตเสื่อม ซึ่งกำลังถูกฟ้องร้องอยู่

และอื่นๆอีกหลายเรื่อง

ซึ่งน่าจะทำให้ผู้บริโภคไม่แน่ใจว่าควรจะซื้อ iPhone X มาหรือไม่ เพราะด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงมาก และถ้าไม่นับเรื่องฟีเจอร์อย่าง Face ID และ Animoji ซึ่ง 2 ฟีเจอร์นี้ สามารถใช้ Touch ID แทนได้ในแง่การปลดล็อค
และ ใช้ Emoji ธรรมดา หรือ Facetime สื่อสารอารมณ์ได้

ตัว iPhone X ก็อาจจะไม่ได้ฟีเจอร์อื่นที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าจำเป็น หรือต้องจ่ายในราคานี้ และถ้ามองในภาพรวมของตลาดมือถือจอไร้ขอบ ก็ยังมียี่ห้ออื่นที่ทำออกมาราคาถูกกว่า โดยไม่มีรอยบั้งด้านบน

ถ้ามองไปที่สิ่งทีี่ Apple ทำในช่วงนี้แล้ว นอกจากคนจะวิจารณ์จะไม่ว้าว เหมือนอดีตครั้งที่ยังมี Steve Jobs อยู่ ก็อาจจะมองได้ว่าเป็นช่วงกอบโกยเงินจากฐานลูกค้าเก่า และเปิดตลาดลูกค้าใหม่ๆอย่างทำมือถือจอใหญ่ขึ้น กล้องดีขึ้น เพื่อมากินฐานลูกค้าที่สามารถกอบโกยได้เพิ่มเติม โดยที่ตัวเทคโนโลยีไม่ได้ใหม่ไปกว่าคู่แข่งมากนัก

ซึ่งยอดขายที่ไม่กระเตื้องใน iPhone X นี้ อาจจะเป็นผลสะท้อนจากการตั้งราคาสินค้า รวมถึงปัญหาต่างๆที่ Apple เจอในปีนี้

และถ้า Apple ยังไม่มีมาตรการที่ดีในการแก้ไขความไม่พอใจของลูกค้า เช่น กรณีการปรับลดความเร็วของ iPhone รุ่นเก่า รวมถึงการปรับปรุงเรื่องความไม่เสถียรของ iOS สถานการณ์ยอดขายในรุ่นนี้หรือรุ่นถัดๆไป ก็อาจจะแย่ลงไปอีก (ปีนี้เป็นปีที่มีข่าวเรื่อง iOS มีปัญหาเยอะมาก และต้องอัพเดทบ่อยมาก)

ในขณะที่ตอนนี้ Samsung ซึ่งปีที่แล้วเจอมรสุมเครื่อง Note7 ระเบิดไป ตอนนี้ดูเหมือนจะได้กระแสตอบรับที่ดีขึ้นจาก Samsung Galaxy Note 8

การจะดูว่า Samsung หรือ Apple ใครจะชนะ อาจต้องดูในระยะยาวๆ เพราะสองเจ้านี้ก็แข่งกันทุกปี แต่สำหรับบริษัทที่รับจ้างผลิตเครื่องหรือชิ้นส่วน อาจจะดีกว่าถ้าสามารถกระจายความเสี่ยงได้ เพราะแม้รายได้จะลดลงจากการที่ลูกค้าขายของได้น้อยลง แต่เราก็ยังมีรายได้จากลูกค้ารายอื่นมาจุนเจือกิจการ

หรืออาจจะทำแบบ Samsung ที่รับผลิตหน้าจอให้ Apple ด้วย และมีสินค้าในแบรนด์ของตัวเองด้วยเช่นกัน
ไม่ว่าสินค้าภายใต้แบรนด์ไหนจะชนะ แต่ Samsung ก็ยังได้กำไรอยู่ดี

Leave a Reply