ตลอดปี 2017 ผมดูหนังทั้งเก่าและใหม่ไปรวมกัน 88 เรื่อง และนี่คือหนังที่มีกำหนดเข้าฉายในโรงในปี 2017 ที่ผมคิดว่ายอดเยี่ยมที่สุดของปี 10 เรื่องครับ
หมายเหตุ : ท้ายบทความ ผมมีแถมลำดับ 11-20 และหนังดีที่เข้าฉายก่อนปี 2017 ที่ผมเพิ่งจะได้ดูปีนี้ สรุปไว้ด้วยนะครับ ดังนั้นบทความนี้จะหนังแนะนำถึง 23 เรื่องครับ
10.War for the Planet of the Apes
หนังปิดไตรภาคสงครามคนกับลิง ที่ชื่อดูยิ่งใหญ่อลังการ แต่ฉากสู้รบและแอคชั่นมีน้อยมากๆ ที่ติดโผนี้เพราะหนังเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดสงครามได้อย่างน่าสนใจ และมีประเด็นน่าพูดถึงเยอะมากๆ
สำหรับเรื่องนี้ขอสารภาพบาปเล็กน้อย คือ ตอนแรกผมจะเขียนบทวิเคราะห์แล้ว แต่ด้วยความที่ยุ่งมากๆ สุดท้ายเลยไม่ได้เขียนให้อ่านกันครับ
9.Kimi no suizo wo tabetai ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ
นำเสนอเรื่องความเป็นความตายของตัวละครได้อย่างน่าสนใจ กับนางเอกที่ป่วยเป็นโรคที่ตับ ทำให้มีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน และในช่วงเวลานั้นเธอเลือกที่จะมาเปิดใจคุยกับพระเอก
เป็นหนังที่มีทั้งความสดใสของตัวละคร และความดราม่าน้ำตาตกแบบสุดๆ ซึ่งก็ให้แง่คิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและความตายได้ดีมากทีเดียวครับ
8.Blade Runner 2049
เป็นหนัง Sci-Fi ปรัชญาชั้นดี ที่งานภาพก็สวยงามมากๆด้วย ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เราตั้งคำถามกับตัวเองว่าชีวิตคนเราเกิดมาเพื่ออะไร เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่มีประเด็นน่าขบคิดเยอะมาก ซึ่งผมได้เขียนบทวิเคราะห์ไว้ตามลิงค์นี้เลยครับ (สปอยล์นะครับ)
Blade Runner 2049 : ชีวิตเราเกิดมาเพื่ออะไร?
อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่หนังแอคชั่นแต่อย่างใด ใครคาดหวังความแฟนตาซี แอคชั่น CG อาจจะผิดหวังนะครับ
7.Manchester by the Sea
เป็นหนังดราม่าซึมลึกของชีวิตที่พังๆ ของคนๆหนึ่ง และวิธีการรับมือกับปัญหาที่พบเจอในชีวิต …หนังเรื่องนี้เล่าเนื้อหามากไม่ได้ แต่แนะนำให้ลองไปดูกันนะครับ ใครคอหนังดราม่าไม่ควรพลาดจริงๆ
6.Coco วันอลวน วิญญาณอลเวง
ถ้าถามว่าหนังเรื่องไหนผมประทับใจมากที่สุดในปีนี้ ขอตอบว่าเป็นเรื่อง COCO นะครับ (แต่ได้ในมุมประทับใจสุดอย่างเดียวไง เลยไม่ไปถึงอันดับ 1 ของการจัดอันดับหนังยอดเยี่ยมของผม)
ภาพยนตร์อนิเมชั่นบทดี นำเสนอเรื่องราวของครอบครัว และความฝันของเด็กที่อยากเป็นนักดนตรี ผ่านประเพณีระลึกถึงผู้เสียชีวิตของชาว Mexico (อารมณ์ประมาณเชงเม้ง) เป็นหนังที่งานภาพก็สวยประทับใจ บทหนังก็ซึ้งเรียกน้ำตา เป็นสุดยอดภาพยนตร์ Feel Good ดูง่ายของปีนี้เลยครับ
5.Moonlight
หนังเล่าเรื่องของชายผิวสี เขาเป็นเพศที่สาม มีแม่เป็นโสเภณีติดยา เรียกได้ว่าเป็นคนชายขอบสุดของสังคม โดยแบ่งเรื่องเล่าออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ Little, Chiron และ Black (วัยเด็ก วัยรุ่น และ วัยฉกรรจ์)
เป็นหนังที่เล่าเรื่องได้คมมากๆเรื่องนึง ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะได้เข้าชิง Oscar กับ LA LA LAND ช่วงต้นปี 2017 ก่อนจะเฉือนชนะไปแบบดราม่าๆ เพราะมีการประกาศผลรางวัลผิด
ส่วนตัวผมเชียร์ทั้งสองเรื่องพอๆกันนะ เพราะมันคนละแนวกันเลย มันดีคนละแบบ
สำหรับเรื่อง Moonlight ผมเขียนบทวิเคราะห์ไว้ตามลิงค์นี้เลยครับ
Moonlight : จาก Little สู่ Black เกราะป้องกันตัวเป็นเพียงเปลือกห่อหุ้มจิตใจที่เปราะบาง
4.Along with the Gods ฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า
เพิ่งเขียนรีวิวไปเมื่อเร็วๆนี้เอง เพราะหนังเข้าช่วงปลายปี หนังเรื่องนี้เป็นหนังดราม่าครอบครัว ที่เรียกน้ำตาจากผมได้อย่างจริงจัง คือ บทมันชวนเรียกน้ำตาจากคนดูมาก เพราะทั้งเศร้า ทั้งซึ้ง
นอกจากนี้หนังยังมีฉากแอคชั่น และ CG ที่ีถือว่าทำได้ดีพอสมควรอีกด้วย เรียกว่าเป็นหนังเกาหลีเรื่องนึงที่มีส่วนผสมลงตัวมากๆ
3.Master ล่าโกง อย่ายิงมันแค่โป้งเดียว
เรื่องนี้เป็นหนังเรื่องเดียวในปีนี้ที่ผมให้ 10/10 นะครับ (ไม่นับซีรีส์) แต่พอเวลาผ่านไป ผมคิดว่าแม้ตอนดูจบจะชอบที่สุด แต่ก็ไม่ใช่หนังที่น่าจะได้ยอดเยี่ยมที่สุดในปีนี้
หนังเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของการโกงแชร์ลูกโซ่ และมีการหักเหลี่ยมเฉือนคมกันตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งทำได้ลุ้น น่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเป็นหนังที่สนุกจริงๆ เพราะมันไปได้สุดทางของหนังแนวนี้เลย
2.Bad Genius ฉลาดเกมส์โกง
หนังไทยซึ่งเป็นตัวเต็งอันดับ 1 หนังยอดเยี่ยมประจำปีนี้ตั้งแต่หนังเข้าฉาย จนถึงช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
นี่เป็นหนังไทยที่น่าจดจำมาก เพราะทั้งสนุก ลุ้น และทำให้รู้ว่าการทำหนังระทึกขวัญ ไม่จำเป็นต้องมีผี เป็นหนังที่ทำให้เราหายใจไม่ทั่วท้องไปตลอดจังหวะการโกงข้อสอบของครูพี่ลิน
นอกจากนี้หนังยังตีแผ่ด้านมืดของการศึกษาไทยได้อย่างสวยงาม ซึ่งผมได้เขียนบทวิเคราะห์ของหนังเรื่องนี้ไว้ตามลิงค์นี้ครับ
ฉลาดเกมส์โกง : วงล้อแห่งการโกง เมื่อเริ่มหมุนแล้ว ก็ยากที่จะสิ้นสุด
และแล้วก็มาถึงอันดับที่ 1 ของปีนี้ครับ ซึ่งบอกเลยว่าเฉือนชนะฉลาดเกมส์โกงไปแบบฉิวเฉียด (จนอยากให้ที่ 1 ร่วม) และแน่นอนว่ามันต้องเป็นหนังที่เข้าฉายเดือนธันวาคมครับ
1.Wonder ชีวิตมหัศจรรย์ วันเดอร์
หนังเรื่องนี้นำเสนอเรื่องของเด็กที่เสียโฉมจากการผ่าตัดและโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ซึ่งเป็นหนังดราม่าครอบครัว ผสมกับหนัง Coming of Age ซึ่งหนังไม่ได้นำเสนอแต่เพียงเรื่องราวของเด็กน้อยเพียงคนเดียว แต่ยังเล่าเรื่องของตัวละครรอบข้างของเด็กคนนี้ด้วย
ทำให้ผมชอบหนังเรื่องนี้มากๆ ในหลายๆแง่มุมครับ ทั้งความประทับใจ อบอุ่นหัวใจ และแง่คิดมุมมองต่างๆที่หนังนำเสนอ
ลำดับที่ 11-20 ของหนังปี 2017
11.Arrival – หนัง Sci Fi มนุษย์ต่างดาวชั้นดีเลยครับ ใครชอบไม่ควรพลาด (ไม่เน้น Action นะ)
12.Logan – หนังดราม่าที่นำเสนออีกแง่มุมของ Wolverine ฉากแอคชั่นค่อนข้างดิบเถื่อนพอสมควร
13.Star Wars VIII The Last Jedi – เป็น Starwars ภาคที่แตกต่าง และพร้อมจะนำเสนอสิ่งใหม่ๆของจักรวาลนี้ทำให้ชอบมากเหมือนกันครับ เรื่องนี้ผมเขียนบทวิเคราะห์แบบสปอยล์ไว้นะครับ (คลิกที่ชื่อหนังได้เลย)
14.John Wick 2 – เป็นหนังที่สนุกมาก ฉากแอคชั่นโหดและทำออกมาดีสุดๆ คอหนังแอคชั่นห้ามพลาดเรื่องนี้จริงๆครับ
15.Fast 8 – โม้อลังการงานสร้าง แต่ก็ดูแล้วสนุกครบรสครับ
16.Okja – ทั้งบันเทิงและหดหู่จริงๆสำหรับหนังเรื่องนี้ ที่ว่าด้วยเรื่องของซุปเปอร์หมูที่ถูกนำไปเพาะเลี้ยง เพื่อจะนำมากลายเป็นอาหารครับ
17.Baby Driver – งานศิลปะชั้นยอดในการผสมผสานภาพและเสียงบนแผ่นฟิล์ม เป็นหนังแอคชั่นที่เจ๋งมากๆ และเรื่องนี้คือเหตุผลนึงที่ผมรู้สึกว่าต้องพูดถึงในสรุปหนังปี 2017 (เลยแถมมาอีก 10 อันดับ)
18.Get Out – นำเสนอเรื่องการเหยียดผิว ผสมกับบางอย่างที่ต้องไปดูเอง (เล่าไม่ได้ มันสปอยล์) ซึ่งเทคนิคการนำเสนอบางอย่างในเรื่องนี้ผมชอบมากครับ
19.The Founder – จริงๆตอนดูจบผมให้แค่ 8 คะแนนเองนะเรื่องนี้ แต่พบว่าแนวคิดเรื่องธุรกิจในหนังเรื่องนี้มันร้ายกาจและแสบสันต์จริงๆ จนเรารู้สึกว่ามันน่าหยิบยกมาพูดถึงมากกว่าเรื่องที่ได้คะแนนมากกว่านี้หลายๆเรื่องซะอีก และนี่เป็นอีกเรื่องที่ผมเขียนบทวิเคราะห์แบบสปอยล์ไว้เช่นกันครับ
20.What happened to Monday – เรื่องของแฝด7คน ที่เกิดในยุคที่แต่ละครอบครัวมีลูกได้คนเดียว เป็นหนังที่พลอตเจ๋งมากเรื่องนึง และฉากแอคชั่น รวมถึงปมต่างๆในเรื่องทำออกมาได้ดีครับ
หนังยอดเยี่ยมที่เข้าฉายก่อนปี 2017
1.The Handmaiden (9.5/10) – ดีมากๆ!! รู้สึกว่าพลาดมากที่มาดูช้า และจะเสียดายถ้าไม่ได้พูดถึงในสรุปหนังประจำปี เพราะนี่อยู่ในเกณฑ์ที่ิจะต้องติดหนังยอดเยี่ยม และไม่เอามาพูดถึงไม่ได้เลยครับ
2.Don’t Breathe (9/10) – ไม่ชอบนะ ดูแล้วหัวใจจะวาย หายใจไม่ทั่วท้อง …(แล้วติดโผได้ไง 555) คือมันดีมากๆ จนต้องยกมาพูดถึงครับ นี่เป็นหนังไม่กี่เรื่องที่รู้สึกว่าโชคดีที่ไม่ได้ดูในโรง เพราะดูที่บ้านเราสามารถกด Pause เพื่อพักหายใจได้ ….หนังมันดีเกินไป ในแบบของมัน ใครชอบหนังเขย่าขวัญ เรื่องนี้ห้ามพลาดจริงๆครับ ใครขวัญอ่อนพกรีโมตไว้ข้างตัวด้วยนะ ฮาๆๆ
3.Citizen Four (9.25/10) – เป็นหนังที่ทรงพลังมาก เพราะคนนำแสดงคือ Edward Snowden เองเลย ตีแผ่เกี่ยวกับการแฉโปรเจคลับๆของประเทศสหรัฐอเมริกาครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ มีพลาดเรื่องไหนไปบ้างรึเปล่าเอ่ย ถ้าสนใจเรื่องไหนอย่าลืมไปติดตามดูกันนะครับ
